“ลิเวอร์พูล” ร้องให้มีการสอบเหตุที่แฟนบอล “หงส์แดง” โดนสลายฝูงชน นัดชิง UCL

“ลิเวอร์พูล” เรียกร้องให้สอบสวน เหตุการณ์ที่สาวก “หงส์แดง” โดนแก๊สน้ำตานอกสนาม นัดชิงชนะเลิศ “แชมเปียนส์ลีก”

การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2021-22 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พ่ายให้กับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด จาก ลา ลีกา สเปน ไปด้วยสกอร์ 0-1

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันดังกล่าวเริ่มเตะเวลา 02.36 น. ล่าช้าไป 36 นาที โดยยูฟ่าอ้างว่าเป็น “เหตุผลด้านความปลอดภัย” เนื่องจาก สาวก “หงส์แดง” จำนวนมากไม่สามารถเข้าไปในสนามได้ จนเกิดความโกลาหล นอกสนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตากับผู้สนับสนุน ซึ่งทำให้เด็ก, ผู้หญิง และคนชรา ต้องหนีไปอยู่ตามร้านค้ารอบสนาม เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ได้มีสื่อออกมารายงานข่าวว่า มีผู้สนับสนุนหญิงสาว น้ำตานองหน้า โดยเธออ้างว่าถูกตำรวจปราบจลาจลพ่นแก๊สน้ำตาใส่ ขณะที่เธอเข้าคิวข้างนอก กองเชียร์ลิเวอร์พูลก็สงบและมีมารยาทดี ในระหว่างที่ต่อคิวเพื่อเข้าไปในสนาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกระบองและโล่ปราบจลาจลวิ่งจากประตูหนึ่งไปอีกประตูหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้แฟนๆ จำนวนมากเข้าไปในสนามกีฬาโดยไม่แสดงตั๋ว โดยเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตากับแฟนลิเวอร์พูลอยู่หลายครั้ง

หลังจากนั้น ยูฟ่า ก็ออกแถลงการณ์ ตำหนิแฟนบอลที่ซื้อตั๋วปลอมนอกสนาม โดยระบุว่า “ก่อนเกม ประตูฝั่งลิเวอร์พูล มีแฟนบอลพยายามใช้ตัวปลอมให้การเข้าชมการแข่งขัน การพยายามเข้ามาของแฟนๆ ทำให้การเริ่มเตะล่าช้าถึง 35 นาทีเพื่อให้แฟนๆ ที่มีตั๋วของแท้ เข้าสนามให้ได้มากที่สุด แต่ตัวเลขนอกสนามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเริ่มการแข่งขัน ตำรวจจึงเข้าสลายฝูงชนด้วยแก๊สน้ำตาและบังคับให้พวกเขาออกจากสนาม ยูฟ่าเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านี้ และจะทบทวนเรื่องนี้เพิ่มเติมร่วมกับตำรวจ เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศส และกับสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส ให้เร็วที่สุด”

ทางด้าน สโมสรลิเวอร์พูล ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสโมสรมองว่ามันเป็นประเด็นที่ยอมรับไม่ได้ โดยระบุว่า “เราผิดหวังอย่างมากกับปัญหาการเข้าสนามและการรุกล้ำความปลอดภัยที่แฟนๆ ลิเวอร์พูล มันคือแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรป และกองเชียร์ไม่ควรจะได้เจอกับสิ่งที่พวกเขาเจอในค่ำคืนนี้ ทั้งนี้พวกเราได้ยื่นเรื่องเพื่อให้มีการสอบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ที่ไม่สามารถยอมรับได้นี้อย่างเป็นทางการแล้ว”