“เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ถูกวีเออาร์เรียกประตูคืนถึงสองหนในครึ่งหลังก่อนโดน “ทัพตราหมี” แอต.มาดริด ฮึดยึงแซงเขี่ยตกรอบไปด้วยสกอร์ 3-2 ในศึกฟุตบอล สแปนิช ซูเปอร์ คัพ (รอบรองชนะเลิศ) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา
นาทีที่ 5 แอต.มาดริด ได้ทักทายก่อนเมื่อ โตมัส ปาร์เตย์ มีจังหวะตั้งป้อมซัดกลางกรอบเขตโทษระยะห่างประมาณ 25 หลาแต่หวดโดนบอลไม่ดีทำให้ไหลไปเข้ามือ เนโต้ รับไว้สบาย
นาทีที่ 8 เซอร์จี้ โรแบร์โต้ แข้งบาร์ซ่าเติมเกมขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนเปิดย้อนมาให้ อาร์ตูโร่ วีดาล บรรจงแปในกรอบเขตโทษของตราหมีแต่ทิศทางไม่ดีหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 17 เกมหยุดไปชั่วขณะเมื่อ ยาน โอบลัค นายด่านแอต.มาดริดมีอาการบาดเจ็บจนแพทย์ประจำทีมต้องลงมาดูอาการจากจังหวะพยายามเข้ารับบอลแต่ถูก หลุยส์ ซัวเรซ ถอยหลังเข้าไปกระแทก แต่ โอบลัค ก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
นาทีที่ 22 บาร์เซโลน่า ได้ลุ้นเปิดสกอร์เมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้ายทางฝั่งซ้ายแต่ไม่ผ่าน ยาน โอบลัค ที่ออกมาปิดมุมดีล้มตัวป้องกันไว้ได้
นาทีที่ 25 เมสซี่ กระชากบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษตราหมีสุดริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดบอลไปติดขา ซาอูล ญีเกซ ที่ตามมาตัดบอลไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 31 ใบเหลืองแรกของเกมเกิดขึ้นจากจังหวะเข้าเสียบบอลแบบอันตรายของ เคราร์ด ปีเก้ กองหลังบาร์ซ่าที่หยุดเกมรุกของ เรนาน โลดี้ ทางฝั่งขวา และจังหวะต่อเนื่องเป็น เอคตอร์ เอร์เรร่า รับหน้าที่ซัดฟรีคิกบอลพุ่งแรงเข้ากรอบแต่ไปติดเซฟของ เนโต้ ที่พุ่งปัดเสาใกล้ไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 40 บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ไหลบอลให้ อองตวน กรีซมันน์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเหน่งๆ ไม่ถึง 10 หลาแต่ดันไปติดเซฟของ ยาน โอบลัค ที่ยังไม่พลาดในเกมนี้
หมดเวลาครึ่งแรก เป็น บาร์เซโลน่า เสมอ แอต.มาดริด 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่นาทีเดียวเป็น แอต.มาดริด ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะต่อบอลสุดสวย อังเคล กอร์เรอา ผ่านบอลตัดแผงหลังบาร์ซ่าเลยไปถึง โกเก้ ตัวสำรองที่พึ่งเปลี่ยนตัวลงมาจับบอลก่อนหนึ่งจังหวะแล้วซัดไวด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเบียดเสาเข้าไปหมดปัญญาที่ เนโต้ จะป้องกัน
นาทีที่ 51 บาร์เซโลน่า ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะ หลุยส์ ซัวเรซ พักบอลลงด้วยอกในเขตโทษตราหมีก่อนส่งย้อนให้ ลิโอเนล เมสซี่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากพาบอลแหวกแผงหลังคู่ต่อกรถึงสองคนแล้วกดด้วยเท้าขวาเน้นๆ บอลพุ่งเบียดโคนเสาเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 57 อองตวน กรีซมันน์ ดาวยิงบาร์ซ่าโชว์ทักษะเหนือชั้นแตะบอลอ้อมตัวแข้งกองหลังแอต.มาดริดก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปตักบอลหวังข้ามหัว ยาน โอบลัค แต่น้ำหนักเบาและความสูงไม่ได้ทำให้ โอบลัค กระโดดคว้าบอลไว้ไร้ปัญหา
นาทีที่ 60 บาร์เซโลน่า พลาดโอกาสทำประตูแซงนำเมื่อ เมสซี่ ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย แอต.มาดริด แต่จังหวะนี้ดูเหมือนจะมีปัญหา ผู้ตัดสินจึงขอเรียกดูวีเออาร์และยกเลิกการได้ประตูของบาร์ซ่าหลังจากนั้น เหตุเพราะบอลไปโดนแขน เมสซี่ ก่อนที่จะยิงประตูทำให้เป็นลูกแฮนด์บอล
นาทีที่ 62 บาร์เซโลน่า ได้ประตูแซงนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะเดิมเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายของ จอร์ดี้ อัลบา แล้วเปิดบอลโด่งโค้งเลยไปเข้าหัว หลุยส์ ซัวเรซ ที่ได้โหม่งระยะไม่ถึง 10 หลาเต็มๆ แต่ถูก ยาน โอบลัค ลอยตัวบัดด้วยปลายมือไว้ได้แต่โชคไม่ดีบอลลอยไปเข้าทาง อองตวน กรีซมันน์ ที่ตามมาโขกซ้ำจังหวะสองแบบจ่อๆ เข้าไป
นาทีที่ 73 บาร์ซ่า พลาดได้ประตูที่สามเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะเกือบ 40 หลา เป็น เมสซี่ เปิดบอลไปให้ อาร์ตูโร่ วีดาล เกี่ยวบอลย้อนก่อนจะออกหลังทางริมเส้นฝั่งขวามาให้ เคราร์ด ปีเก้ ที่ยืนรออยู่แล้วยิงเข้าไปแบบจ่อๆ แต่ผู้ตัดสินขอเรียกดูวีเออาร์อีกครั้ง และตัดสินให้จังหวะนี้เป็นลูกล้ำหน้าส่งผลให้ บาร์ซ่าถูกปฏิเสธจากได้ประตูจากการเช็กวีเออาร์ถึงสองครั้งสองคราแล้ว
นาทีที่ 78 แอต.มาดริด เกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อ อังเคล กอร์เรอา หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเต็มข้อแต่ถูก เนโต้ ปัดไว้ได้แต่บอลยังไม่พ้นระยะอันตรายกระดอนไปเข้าทาง ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ยืนปักหลักรออยู่ซ้ำเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าลงโทษ เฟลิกซ์ เพราะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนที่จะเข้าเล่นบอล
นาทีที่ 81 แอต.มาดริด ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จเมื่อ บิโตโล่ หลุดเดี่ยวเข้าไปโดน เนโต้ นายด่านบาร์ซ่ารวบขาล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินี้ให้เป็นลูกจุดโทษและควักใบเหลืองให้ เนโต้ ทันที และเป็น โมราต้า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซาก
นาทีที่ 83 มีการเรียกดูวีเออาร์อีกครั้งจากจังหวะที่ อัลบาโร่ โมราต้า ดาวยิงแอต.มาดริด เปิดบอลไปโดนมือ เคราร์ด ปีเก้ ในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินพิจารณาแล้วว่าเป็นท่าทางธรรมชาติของ ปีเก้ และระยะบอลที่ใกล้ทำให้หลบไม่ทันกลายเป็นบอลทูแฮนด์จึงทำให้ทัพตราหมีได้เพียงลูกทุ่มจากด้านข้างที่ฝั่งบาร์ซ่าเคลียร์บอลออกไปเท่านั้น
นาทีที่ 86 แอต.มาดริด แซงนำ 3-2 จากจังหวะจ่ายบอลสุดสวยของ อัลบาโร่ โมราต้า ให้ อังเคล กอร์เรอา หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดติดมือ เนโต้ ในจังหวะแรกแต่ด้วยความแรงของบอลทำให้กระดอนเข้าประตูไป แม้จะมีแข้งบาร์ซ่าพยายามตามไปเคลียร์แต่ลูกบอลก็ผ่านข้ามเส้นประตูไปเรียบร้อยแล้ว
นาทีที่ 90 ทัพตราหมีหวิดบวกสกอร์เพิ่มเมื่อ มาร์กอส ยอเรนเต้ หลุดเดี่ยวเข้าไปหวดเต็มข้อแต่คราวนี้ไม่ผ่านมือ เนโต้ ที่ปิดมุมดีและปัดออกไปได้
นาทีที่ 90+2 บาร์ซ่า ได้ลุ้นตีเสมอ เคราร์ด ปีเก้ เติมเกมขึ้นไปได้โขกเต็มหัวในกรอบเขตโทษ แอต.มาดริด ระยะไม่ถึง 10 หลาแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย และนี่คือจังหวะสุดท้ายของเกม
จบเกม แอต.มาดริด พลิกยิงแซงเฉือน บาร์เซโลน่า 3-2 ส่งผลให้ทัพตราหมีผ่านเข้าไปสู่รองชิงชนะเลิศโดยจะพบกับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทยต่อไป