ตลาดช่วงซัมเมอร์ปีนี้ของลีกเมืองกระทิงปิดทำการไปอย่างเงียบเหงาไร้การเซ็นสัญญากับนักเตะที่สร้างความตื่นเต้นให้ตลาดลูกหนังเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังสองขาใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ไม่ออกอาวุธเพราะขาดงบประมาณ
ทุกสโมสรลูกหนังต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส’โควิด-19′ ที่ก่อหายนะต่อสุขภาพของผู้คนและวงการธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสองยักษ์ใหญ่เมืองกระทิงอย่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่สูญเสียรายรับจำนวนมหาศาลจนต้องปล่อยนักเตะออกมากกว่าซื้อเข้าสโมสร
ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด เคยออกมายอมรับก่อนหน้านี้ว่าสาวกมาดริดีสต้าคงไม่เห็นการลงทุนเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ด้วยเงินก้อนโตเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังทัพ’โลส บลังโกส’จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเซ็นสัญญากับแข้งใหม่ในตลาดซัมเมอร์ปี 2019
นอกจากจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้ว ทีมชุดขาวยังมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสังเวียน’ซานติอาโก้ เบร์นาเบว’ตามแผนงานก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งประธานมาดริดระบุว่าสโมสรจำเป็นต้องหาเงินเข้าทีมอีก 150 ล้านยูโร
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ เรอัล มาดริด ปล่อยนักเตะออกจากทีมจำนวนมากโดยไม่มีการเซ็นสัญญากับผู้เล่นใหม่แม้แต่รายเดียว
ทั้ง แกเร็ธ เบล, ดาเนียล เซบายอส, บอร์ฆา มาโยราล, บราอิม ดีอาซ, ทาเกะฟุสะ คูโบะ, ไรเนียร์ เฮซุส คาร์วัลโญ่ กับ เฆซุส บาเยโฆ ถูกปล่อยตัวออกจาก ‘ซานติอาโก้ เบร์นาเบว’ ด้วยสัญญายืมตัวเพื่อลดภาระการจ่ายค่าจ้างนักเตะ
ขณะที่ ฮาเมส โรดรีเกซ, อาชราฟ ฮาคีมี่, เซร์คิโอ เรกีลอน, ออสการ์ โรดรีเกซ, ฆาเบียร์ ซานเชซ, มิเกล บาเอซ่า, อัลเบร์โต้ โซโต้, ดาเนียล โกเมซ กับ ฆอร์เค่ เด ฟรูโตส ถูกสโมสรเททิ้งในตลาดซัมเมอร์นี้ตามนโยบายของประธานฟลอเรนตีโน่
ส่วนขุมกำลังใหม่ของ เรอัล มาดริด มีเฉพาะ มาร์ติน โอเดการ์ด, อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า กับ อันเดรย์ ลูนิน เด็กในสังกัดที่ดึงกลับมาจากสัญญายืมตัวเท่านั้น
นั่นเท่ากับว่า ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะต้องใช้ขุมกำลังหน้าเดิมจากซีซั่นที่ผ่านมาสำหรับการไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลนี้
สำหรับสถานการณ์ของ บาร์เซโลน่า ไม่แตกต่างจาก เรอัล มาดริด หลังมีการเปิดเผยตัวเลขว่าสโมสรขาดทุนในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาจำนวน 97 ล้านยูโร ส่งผลให้ยอดหนี้ของทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าเพิ่มจาก 217 ล้านยูโรในปี 2019 เป็น 488 ล้านยูโรในปีนี้
บาร์เซโลน่า เคยตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นสโมสรแรกในโลกลูกหนังที่มีรายรับแตะหลัก 1,000 ล้านยูโรก่อนหน้านี้ แต่ความหวังของพวกเขาพังทลายลงจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อ’โควิด-19′ นอกจากจะก้าวไปไม่ถึงเป้าหมายแล้วยังขาดทุนเกือบ 100 ล้านยูโรด้วย
ตัวเลขบัญชีของทีมอาซูลกราน่าระบุว่าซีซั่น 2019-2020 สโมสรมีรายได้ 855 ล้านยูโร ลดลงกว่าที่ตั้งเป้าไว้กว่า 200 ล้านยูโร หลังเคยคาดการณ์ว่าจะมีรายรับราว 1,059 ล้านยูโร ถ้าหากไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าจะนำไปสู่การทำผลกำไรราว 30 ล้านยูโร
3 แหล่งรายรับหลักที่สโมสรสูญเสียไประหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวแสบคือการขายตั๋วชมเกมแข่งขัน 47 ล้านยูโร, การขายสินค้าที่ระลึกของสโมสร 35 ล้านยูโรและค่าตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ของสโมสรอีก 18 ล้านยูโร
นั่นทำให้ยอดรายรับในฤดูกาลที่ผ่านมาเหลือเพียง 855 ล้านยูโร ต่ำกว่ารายรับช่วงซีซั่น 2018-2019 ที่ได้ 990 ล้านยูโร แม้ว่าสโมสรจะโน้มน้าวให้นักเตะยอมลดค่าจ้างระหว่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ช่วยประหยัดเงินราว 44 ล้านยูโรแล้วก็ตาม
ส่วนสถานการณ์ปัจจุบันยังมีแนวโน้มว่าไวรัส’โควิด-19’ของเมืองกระทิงอาจจะมีการแพร่ระบาดอีกระลอกและยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลสเปนจะเปิดไฟเขียวให้สโมสรสามารถเปิดสนามต้อนรับการกลับมาของแฟนบอลเมื่อไหร่ ซึ่งคงทำให้ธุรกิจลูกหนังอาจทรุดยาวไปจนถึงปีหน้า
ดังนั้น บาร์เซโลน่า จึงคาดการณ์ว่าซีซั่น 2020-2021 สโมสรอาจมีรายรับลดลงอีกราว 8 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อยอยู่ที่ตัวเลขประมาณ 791 ล้านยูโรหรืออาจต่ำกว่านั้น
จากสถานะทางการเงินข้างต้นทำให้ บาร์เซโลน่า จำต้องปล่อยนักเตะออกจาก ‘คัมป์ นู’ มากกว่าการเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ เว้นจากการทำข้อตกลงก่อนหน้านี้อย่าง ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ หรือ เปดรี้ กับ มาเธอุส แฟร์นานเดส