โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์ หัวหอกชาวฝรั่งเศสตื่นเต้นกับการเริ่มต้นบทใหม่ในอาชีพค้าแข้งของเขาบนเวที เซเรีย อา หลังดาวยิงวัย 34 ปี ย้ายมาค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 2 ล้านยูโรในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ชีรูด์ เริ่มต้นอาชีพกับ เกรอน้อบล์ เมื่อปี 2005 ก่อนย้ายมาเล่นกับ อีสต์ ด้วยสัญญายืมตัวในซีซั่น 2007-2008 จากนั้นจึงโยกมาอยู่กับ ตูร์ ในปี 2008 จนกระทั่ง มงต์เปลลิเย่ร์ ดึงเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 เขาทำ 21 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ คว้ารางวัลดาวซัลโว ลีก เอิง ร่วมกับ อันแดร์ซอน หลุยส์ เดอ คาร์วัลโญ่ เนเน่ ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พร้อมนำ มงต์เปลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ลีกเมืองน้ำหอมแบบเหนือความคาดหมาย
จากผลงานดังกล่าวทำให้ อาร์เซน่อล ดึงเข้าสังกัดในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ด้วยค่าตัวราว 12 ล้านยูโร ตลอด 5 ปีครึ่งภายใต้สีเสื้อทีมปืนโต หัวหอกชาวฝรั่งเศสลงเล่นรวมกัน 253 เกม ทำ 105 ประตู ร่วมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ รายการละ 3 สมัย
ก่อน อาร์เซน่อล จะปล่อย ชีรูด์ ย้ายไปค้าแข้งกับคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี ในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัว 17 ล้านยูโร แม้กองหน้าชาวฝรั่งเศสจะมีโอกาสลงสนามแบบจำกัด แต่ช่วงเวลา 3 ปีครึ่ง เขายังลงเล่นรวมกัน 119 เกม ทำ 39 ประตู
ชีรูด์ ยังประสบความสำเร็จร่วมกับทีมสิงห์น้ำเงินจากการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูโรปาลีก 1 สมัย รวมถึงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะปิดฉากการค้าแข้งบนเวทีพรีเมียร์ลีกนาน 9 ปีด้วยการย้ายมาค้าแข้งกับทัพรอสโซ่เนรี่ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 1 ล้านยูโรบวกโบนัสอีก 1 ล้านยูโร
กองหน้าวัย 34 ปีย้ายมาค้าแข้งในลีกเมืองมะกะโรนีพร้อมตั้งตารอการสะสมโทรฟี่แชมป์เพิ่มเติมจากช่วงเวลาที่อยู่กับ มงต์เปลลิเย่ร์, อาร์เซน่อล และ เชลซี ก่อนหน้านี้
‘ผมคว้าแชมป์มามากมายจากหลายสโมสรที่ผมเคยเล่นมาก่อนหน้านี้ และอยากทำแบบเดียวกันนี้ที่นี่’ ชีรูด์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวฐานะสมาชิกใหม่ของทีมปีศาจแดง-ดำ
‘ผมมีเป้าหมายในใจในช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ แต่ผมไม่ต้องการเปิดเผยมัน มิฉะนั้นจะมีความกดดันมากเกินไป สมมติว่าเป้าหมายสุดท้ายของผมคือการคว้าชัยชนะกับ มิลาน’
ชีรูด์ เซ็นสัญญา 2 ปีกับทัพรอสโซ่เนรี่และกำลังก้าวเดินตามรอยแข้งในตำนานของสโมสรอย่าง กุนนาร์ นอร์ดาห์ล, ฟิลิปโป้ อินซากี้ และ อันเดร เชฟเชนโก้ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับทีมปีศาจแดง-ดำ
‘ถึงเวลาที่ต้องออกจาก เชลซี และค้นหาลีกใหม่ ผมเป็นคริสเตียน และผมคิดว่าพระเจ้าต้องการให้ผมย้ายมาเล่นกับ มิลาน ในฤดูกาลนี้ และไม่ใช่ อินเตอร์ ทีมสุดท้ายและผมมีความสุขกับสิ่งนั้น’ ชีรูด์ กล่าว
‘นี่เป็นหนึ่งในสโมสรใหญ่ที่สุดในโลก และผมเชื่อในโปรเจ็กท์ที่นี่จริงๆ เรามีสิ่งที่จะทำให้มีซีซั่นแชมเปี้ยนส์ลีกที่ดีมาก’
‘ตอนผมยังเด็ก ผมได้ดูเกมของ มิลาน กับ เชฟเชนโก้ และต่อมาเขาก็กลายเป็นเพื่อนรักที่ผมมักขอคำแนะนำเสมอ’
‘มันเป็นเกียรติสำหรับผมที่ได้มาอยู่ในสโมสรที่มีสตาร์ดังมากมายมาเล่นที่นี่ และการพูดคุยกับ (ผู้อำนวยการ) เปาโล มัลดินี่ เป็นการสนทนาที่เร้าความรู้สึกเช่นเดียวกัน’
‘ผมต้องการมีส่วนร่วม เป็นพี่ใหญ่ให้นักเตะและนำประสบการณ์ของผมเข้ามา ผมหวังว่าจะเป็นที่จดจำในฐานะคนที่ดีคนหนึ่งและไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น’
ชีรูด์ เคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ลาซิโอ ที่มี เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก่อนเซ็นสัญญากับ เอซี มิลาน โดยมีรายงานอ้างว่าเจ้านายเก่าพูดคุยกับดาวยิงชาวฝรั่งเศสว่าสนใจย้ายมาค้าแข้งในเมืองหลวงของอิตาลีหรือไม่ ก่อนกองหน้าวัย 34 ปีจะปฏิเสธรายงานดังกล่าว
‘ไม่, ผมไม่ได้คุยกับเขา แต่ผมได้ยินสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับผม มันเป็นเรื่องดีมากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเขา และเราแบ่งปันฤดูกาลที่ดีร่วมกันด้วยการคว้าแชมป์ ปีแรกของเขา ในฤดูกาลนั้น ผมลงเล่นเยอะมาก ผมเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมและสำหรับผม มันเป็นความพอใจอย่างยิ่ง ผมจำเขาได้ในฐานะผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนที่เยี่ยมยอด’
ชีรูด์ เริ่มต้นอย่างยากลำบากนับตั้งแต่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีมสิงห์น้ำเงินต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จช่วงซีซั่นสุดท้ายในถิ่น ‘สแตมฟอร์ด บริดจ์’ ก็ตาม
กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 ทำ 5 ประตูบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นที่ผ่านมา 4 ประตูมาจากชัยชนะเหนือ เซบีย่า 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่มบนสังเวียน ‘ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน’
ผลงานดังกล่าวทำให้ ชีรูด์ กลายเป็นนักเตะอายุมากสุด (34 ปีกับ 63 วัน) ที่ทำแฮตทริคบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก/ยูโรเปี้ยน คัพ นับตั้งแต่ เฟเรนซ์ ปุสกาส ตำนานกองหน้าทีมชาติฮังการีเคยทำแฮตทริคกับ เรอัล มาดริด ในรายการนี้เมื่อปี 1965 ด้วยวัย 38 ปีกับ 173 วัน
ชีรูด์ มาถึง มิลาน ในฐานะแชมป์ยุโรปและเป็นผู้สืบทอดเสื้อหมายเลข 9 ของทีมปีศาจแดง-ดำ ซึ่งเป็นหนึ่งในเบอร์เสื้อที่โด่งดังสุดในโลกลูกหนัง เพียงแต่กลายเป็นเบอร์อาถรรพ์ของผู้เล่นหลายคนในช่วงหลายปีหลัง
กอนซาโล่ อีกวาอิน, คริสตอฟ พิออนเท็ค กับ มารีโอ มานด์ชูคิช ต่างล้มเหลวในฐานะผู้เล่นหมายเลข 9 ของ เอซี มิลาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ ชีรูด์ ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องดังกล่าว
‘ผมไม่ได้เชื่อโชคลาง หมายเลขเสื้อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของผม’
‘กองหน้าอย่าง อินซากี้, มาร์โก ฟาน บาสเท่น และ ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง ต่างสวมเสื้อตัวนี้ให้ มิลาน แต่ผมไม่รู้สึกกดดันใดๆ’
ชีรูด์ จะเข้ามาเชื่อมโยงกับอีกหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่ของ เอซี มิลาน นั่นคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกชาวสวีดิชที่ทำ 25 ประตูจากการลงเล่นบนเวที เซเรีย อา 37 เกม นับตั้งแต่ย้ายกลับมาที่ ‘ซาน ซีโร่’ ในช่วงเดือนมกราคมปี 2020
หัวหอกชาวฝรั่งเศสที่กำลังจะอายุครบ 35 ปีในวันที่ 30 กันยายนนี้ยังยก อิบราฮิโมวิช กองหน้าวัย 39 ปีเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นระดับสูงสุดต่อไปให้นานสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
‘อายุของผมไม่มีความหมายอะไร’ ชีรูด์ กล่าว ‘ซลาตัน แก่กว่าผม 2-3 ปี แต่มันเป็นเรื่องของความคิดของคุณ ด้วยแรงจูงใจที่ถูกต้อง คุณยังคงสามารถผลักดันได้อย่างเต็มที่’
ชีรูด์ ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากับ นีซ ฐานะสำรองลงสนามช่วงนาที 61 ก่อนกองหน้าวัย 34 ปีจะทำประตูตีเสมอให้ทีมปีศาจแดง-ดำจากการสัมผัสบอลครั้งแรกในอีก 5 นาทีต่อมาจากการเปิดบอลของ ซามูเอล กาสตีเยโฆ ก่อนที่ทีมของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ จะลงยืดเส้นยืดสายเกมต่อไปกับ บาเลนเซีย ในวันพฤหัสฯนี้
กองหน้าป้ายแดงของ เอซี มิลาน ยังกล่าวถึงความประทับใจแรกของเขาต่อ ปิโอลี่ เจ้านายคนใหม่ว่า ‘ผมหวังว่าจะมีช่วงเวลาดีๆกับ มิสเตอร์ ปิโอลี่ ซึ่งผมคิดว่าเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม มีทักษะที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนที่ยอดเยี่ยม’